Featured

เวียดนามใกล้ๆใครๆก็ไปได้

ทัวร์เวียดนาม
วันนี้ทัวร์นะครับจะมาชี้แนะสถานที่เที่ยวยอดฮิตในเวียดนาม รับประกันว่ามองเห็นแล้วจะต้องร้องว้าวววว
ไม่ว่าจะทิวภาพของธรรมชาติ ที่สวย ประเทศชาติที่มองคลาสสิค วัฒนธรรมที่ผสมกันอย่างพอดีระหว่างระหว่างตะวันตกแล้วก็ทิศตะวันออก ซาขว้าง เวียดนาม.jpg เมืองซาขว้าง เป็นเมืองขอบชายแดนจีน-เวียดนาม จังหวัดลาวไก มีธรรมชาติที่งาม และก็นักเดินทางจะนิยมมาดูทิวทัศน์วิวของนาขั้นบันได
ข้อดีของตรงนี้เว้นแต่ธรรมชาติที่งามแล้ว ก็คือการสัมผัสวิถีชีวิตของชนท้องที่ ซาขว้าง เวียดนาม1.jpg เมืองกัตกัต อยู่ห่างจากเมืองซาขว้าง 3 กิโล เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของชาวเผ่าม้งที่ย้ายถิ่นมาจากเมืองจีน
นอกเหนือจากนั้นพวกเราก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวดูกลุ่มบ้ฟานและก็วิถีชีวิตของคนท้องถิ้นของตรงนี้ได้อีกด้วย ตลาดชาวดอยซาขว้าง.jpg ตลาดคนภูเขาซาขว้าง ตลาดนี้นับว่าเป็นสีสันหนึ่งของเมืองซาขว้าง เป็นสถานที่ที่ชาวเผ่าต่างๆนำของมาซื้อ-ขายกัน ตรงนี้จะคับแคบมากมายในวันเสาร์ รวมทั้งของที่ขึ้นชื่อลือนามของตลาดที่นี้เป็น ข้าวเช้า หากมาตรงนี้จำต้องมาทดลอง ตลาดชาวดอยซาขว้าง1.jpg.jpg ภายหลังที่เดินดูตลาดเป็นระเบียบก้ถึงเวลาดูทิวทัศน์ของเมือง โดยขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นไปยังยอดดอยฟานซิปัน ซาขว้างเวียดนาม2 กระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นไปยังยอดดอยฟานซิปัน
ยอดดอยฟานซิปัน เวียดนาม ยอดดอยฟานซิปัน เมื่อพวกเรานั่งตะกร้ามาถึงแล้ว ก็จำต้องเดินทางต่อกันอีกเล็กน้อยก่อนจะมองเห็นชี้แจงกาศที่สวยโดยจำเป็นต้องป่ายปีนบันไดอีก 600 ขั้น หรือผู้ใดกันที่ต้องการจะเดินก็ได้แต่ว่าจะต้องใช้เวลาแทบตลอดทั้งวัน เพื่อไปถึงยอด
ฟานซิปันเป็นเทือกเขาที่มีเยอะที่สุดในประเทศเวียดนาม โดยได้สมญานามว่า “หลังคาที่อินโดจีน”
ใครกันแน่ที่มาฟานสิปัน แล้วฟ้าเปิด อากาศดี นับว่าโชคดีสุดๆเพราะเหตุว่าส่วนใหญ่ฟ้าจะปิด หมอกดก
ภายหลังที่ดูประทับใจกับบรรยากาศที่สวยสดงดงามแล้วพวกเราก็ไปต่อที่ฮานอย โดยใช้เวลาเดินทางราว 4 ดู ฮานอย เมืองขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ เมืองที่มีความมากมายหลากหลายทาง วัฒนธรรม ประเทศที่มีทั้งยังความเป็นจีน ยุโรป แล้วก็ทวีปเอเชียปนกัน มองรวมๆแล้ววมีสเน่ห์เหลมสือเกิน ><” หลุมฝังศพผู้นำ โฮจิมินห์ วีรบุรุษชั่วกับชั่วกัลป์ของชาวเวียดนาม คนที่รวมเวียดนามเป็นประเทศ และก็ยังเป็นผู้ดำเนินรายการเอกราชให้กับประเทศเวียดนามด้านในหลุมฝังศพบรรจุศพท่านผู้นำ ซึ่งได้ทำรักษาศพไว้อย่างดีเยี่ยมไม่ให้เน่า ต่อจากนั้นก็ไปต่อที่เมือง ฮาทดลอง ดินแดนที่มังกรหลับ ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง
ขอบอกเลยว่าเพียงแค่ได้ดูบรรยากาศข้างทาง ดูวิถีชีวิตชีวิตความเป็นอยู่การกสิกรรมบาปรวมทั้งทุ่งนาข้าวเขียวชอุ่มก็ฟินล้าว เมื่อถึงอ่าวฮาทดลองที่เป็นเลิศในมรดกของโลก ซึ่งชื่อนั้นตั้งมาจากตำนานของชาวประจำถิ่นที่หมายความว่า “สถานที่ ที่มังกรลงมาอยู่” ซึ่งอ่าวที่นี้มีเกาะหรือหินยื่นขึ้นมานับพัน
พวกเราก็จะได้ร่องเรือดูอ่าวฮาทดลอง รับประทานอาหารซีฟู้ด หรือพายเรือคายัก เพื่อดูทิวทัศน์ในถ้ำ หรือคนไหนต้องการจะดูทิวทัศน์ตะวันตกดินก็โรแมนติกสุดๆที่เป็นเลิศในมรดกของโลก ซึ่งชื่อนั้นตั้งมาจากตำนานของชาวพื้นเมืองที่แสดงว่า “สถานที่ ที่มังกรลงมาอยู่” ซึ่งอ่าวที่นี้มีเกาะหรือหินยื่นขึ้นมานับพัน ทำให้เป็นสถานที่เที่ยวที่สวยสดงดงาม ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ภายหลังที่ชื่มดูกับธรรมชาติไปแล้ว คนไหนกันแน่ต้องการจะออกช้อปปิ้งที่เมืองแก้วก็จะมีไนท์มาเก็ต ที่เป็นถนนหนทางคนเดิน อยู่ข้างถนนเส้นข้างล่างข้างหน้าตลาดแก้ว มีทุกวี่ทุกวัน มีร้านค้าขายของกินข้างถนน มีจะยานให้เช่าปั่นเล่น มีนักแสดงมารับวาดภาพราวกับ ราคาถูกโดยประมาณ 150 บาท
Featured

เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชบุรีท้ายที่สุดของประเทศพม่า

ทัวร์พม่า
“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชบุรีท้ายที่สุดของเมียนมาร์”
วันนี้พวกเราจะมาชี้แนะสถานที่ท่องเที่ยงตรงในประเทศพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมส่วนตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางเผลอไผลจนถึงไม่เคยรู้ลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชบุรีท้ายที่สุดก่อนที่จะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ตรงนี้ถือเมืองใหญ่ชั้นลำดับที่สองของประเทศพม่ารองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากปิ้งกุ้งโดยประมาณ 716 กิโล รวมทั้งพระผู้เป็นเจ้าไม่นป่าทรงย้ายราชจังหวัด มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชเมืองในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระผู้เป็นเจ้าไม่นป่าดง โดยตั้งชื่อตามเทือกเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พม่า
เป็นเมืองดั้งเดิมตั้งแต่ยุคพุทธศักราชที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยมากมายแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโหฬารของเจดีย์เยอะแยะกว่า 5,000 องค์ จนได้รับนามสมมุติว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บอกถึงความเจริญของศาสนาพุทธในประเทศประเทศพม่าได้อย่างดีเยี่ยมคนทั่วๆไปก็เลยเรียกเมืองพูกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
เทือกเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดสำหรับเพื่อชมวิวสวยและก็มีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาหลักๆให้นักเดินทางได้ดู ทั้งยังมองธรรมชาติ มองทิวภาพอันสวยที่สุด และก็สามรถยนต์มองดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบ 100% สามารถแลเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส ท่องเที่ยวดูตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ผลิตขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา ทำขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบ Toungthamon ระยะทางกว่า 1 กม. คุณลักษณะเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกเหนือจากการที่จะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังผลิตขึ้นจากไม้สัก ที่รื้อถอนมาจากวัง เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนประเทศพม่า เป็นการตักบาตรพระ ในเวลาสายๆจะมีพระประเทศพม่าเดินเข้าคิวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยรอบๆวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม อาหารต่างๆหรือหากไม่ต้องการซื้อพวกเราสามารถมอบเงินตามกำลังเลื่อมใสได้เลย
นี่เป็นเพียงแต่ภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งส่วนใดของเมืองมัณฑะเลย์ นอกเหนือจากนี้ประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่งาม และก็น่าดึงดูดอีกเยอะมากที่ยังรอคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต แล้วก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยพวกเรา แล้วก็ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง คนไหนกันมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมประเทศพม่า ไม่งกะละบานะขา
Featured

ท่องเที่ยวประเทศเกาหลี สัมผัสหิมะ ดูซากุระบาน สะกดรอยซีปรี่ดัง

ทัวร์เกาหลี
การเดินทาง BANGKOK – KOREA
สำหรับเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้พวกเรามีพี่สาวสุดงามเป็นผู้นำทัวร์ที่รอดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพวกเราสำหรับในการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้การเดินทางมาประเทศเกาหลีในตอนเมษายนที่เป็น หน้าร้อนของเมืองนั้นแต่ว่าที่ประเทศเกาหลีพวกเราจะได้สัมผัสกับความหนาวเย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิ และก็สถานที่เที่ยวแรกที่ได้เดินทางไปนั้น
ENGLISH VILLAGE
ENGLISH VILLAGE เป็นสถานที่แรกสำหรับเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้ ENGLISHVILLAGE เป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำซี่รีส์ประเทศเกาหลีเรื่อง ” F4 รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง ” บรรยากาศรอบๆนั้น มองสะอาด สวยสดงดงามมากมาย อาคารตึกที่ผลิตขึ้นนั้นสไตล์ยุโรป ที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับพวกเราได้ท่องเที่ยวยุโรปเช่นเดียวกัน ทั้งยังสนุกเพลิดเพลินใจกับการถ่ายภาพกับ POSTER ของซี่รีส์ประเทศเกาหลีเรื่อง F4 รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง ต่อจากนั้นได้รับประทานของกินประเทศเกาหลีมื้อแรกี่มีชื่อว่า “ทัคคาลบี้เมื่อเพิ่มเติมพลังสำหรับเพื่อการเดินทางด้วยของกินประเทศเกาหลี แล้วนั้นได้เดินทางถัดไปยัง” เกาะนามิ “สถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์ประเทศเกาหลีดัง” WINTER LOVE SONG ” คุณจะได้สัมผัสวิวของต้นไม่ ที่ปลูกเรียงรายงดงาม แม้กระนั้นด้วยอากาศที่ยังหนาวเย็นอนู่นั้นทำให้พวกเรามองเห็นฯลฯไม้ที่ไม่มีใบซึ่งให้ความรู้ความเข้าใจสึกงามไปอีกในลัษณะหนึ่งแม้กระนั้นหากเป็นฤดูใบไม้ผลิพวกเราได้มองเห็นฯลฯไม้ที่มีใบสีเหลือง ไปโคนลดแนวของต้นไม้ที่ขึ้นเรียงราย
ไร่สตอเบอร์ปรี่
เพิ่มเติมพลังกับข้าวเช้าที่โฮเต็ลและก็เริ่มเดินทางสู่ไร่สตอเบอร์ปรี่เมื่อเดินทางมาถึงที่ไร่สตอเบอร์ปรี่ก็ได้ลองความอร่อยรวมทั้งสดใหม่ของสตอเบอร์ปรี่ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่าเป็นสตอเบอร์ปรี่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยรับประทานมาเพราะว่าพวกเราสามารถเก็บจากต้นได้เองกับมือแถม” สตอเบอร์ปรี่ที่นี้มีขนาดลูกใหญ่มากๆ” ภายหลังจากไปเที่ยวไร่สตอเบอร์ปรี่พอเหมาะพอควรได้เดินทางถัดไปยังสถานที่เรียนสอนทำ” กิมจิ”ที่ได้ลงมือกระทำรับประทานจิเองกับมือแม้กระนั้นโชคร้ายที่มิได้ลองความสามารถตนเองแม้กระนั้นมีความคิดว่าคงจะอร่อยอยู่นะ และก็ทานอาหารตอนกลางวันก่อนที่จะเดินทางยังดินแดน ที่ความสนุกสนานสานแล้วก็เสียงหัวเราะ
EVERLAND
หลังรับประทานอาหารช่วงเวลากลางวันแล้วพวกเราทุกคนได้เดินทางไปสู่ดินแดนที่เสียงหัวเราะแล้วก็ความสนุกสนานร่าเริงอย่าง “EVERLAND”สวนสนุกที่ใหญ่และก็สวยที่สุดบรรยากาศข้างในสวนสนุกในช่วงเวลานี้ เต็มไปด้วยทุ่งดอกทิวลิปที่กำลังแข่งขันกันชื่นบานยกช่ออันสวยสดงดงามมีการแสดงรวมทั้งแห่ขบวนพาเหรดรวมทั้งเครื่องเล่นต่างๆที่คอยให้มาต่อสู้ความองอาจ รวมทั้งสัมผัสความหวาดเสียว แม้กระนั้นที่ยอดเยี่ยมแล้วก็ซาบซึ้งใจเยอะที่สุดสำหรับเพื่อการเดินทางมาประเทศเกาหลีในคราวนี้เป็น หิมะที่ตกโปรยลงมา นับเป็น ” คราวแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสกับหิมะของแท้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ” รู้สึกตื่นเต้นมากมายๆกระทั่งหายหนาวเลย ไม่นานเดินทางกลับไปสู่ที่พักเพื่อพักเก็บแรงเอาไว้ท่องเที่ยว รวมทั้งช้อปปิ้งในวันพรุ่งนี้
ป้อมฮวาซอง-อนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์-พิพิธภัณฑสถานเท็ดดี้กางร์
ภายหลังทานอาหารยามเช้าเสร็จเป็นระเบียบเรียบร้อยได้เริ่มเดินทางสู่”ป้อมฮาวาซอง”มรดกโลกของประเทศเกาหลีซึ่งเคยเป็นที่ประทับรวมทั้งที่ฝั่งศพขององค์ชายรัชทายาทจังฮอนเป็นสถานที่โบราณของวงศ์สกุลประเทศเกาหลี ซึ่งได้เดินดูดูบรรยากาศรอบๆของป้อมฮาวาซองพอเหมาะพอควร ก็ได้เดินทางสู่ บลูเฮาส์ ทำเนียบผู้นำคนตอนนี้ ได้ยืนถ่ายภาพเป็นของที่ระลึกคู่กับ ” อนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์ ” เครื่องหมายของความเป็นอมตะแล้วก็ดูทิวทัศน์ของ ” เทือกเขาหัวมังกร “ต่อไปเดินทางเข้าชม”พิพิธภัณฑสถานคติชนพื้นบ้าน”ที่ได้ศึกษารวมทั้งรู้ถึง ประวัติความเป็นมาของคนประเทศเกาหลีตั้งแต่สมัยโบราณผ่านทางห้องแสดงหุ่นต่างๆในพิพิธภัณฑสถาน ข้างหลังออกมาจากพิพิธภัณฑสถานคติชนท้องถิ่นแล้วรับ ประทานมื้อกลางวัน และก็ต่อไปเดินทางสู่ “หอสังเกตการณ์กรุงโซล (SEOUL TOWER) ” ที่นี้จะได้มองเห็นบรรยากาศรอบๆของกรุงโซล แล้วเดินทางเข้าชม ” พิพิธภัณฑสถานเท็ดดี้กางร์ ” ( The Teddy Bear Museum ) ที่จะเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีเท็ดดี้กางร์ในแบบต่างๆที่มีหมีเท็ดดี้กางร์เป็น ผู้แทนของเลียนแบบเหตุการณ์์รวมทั้งวิถีชีวิตของคนประเทศเกาหลี เพียงพอเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑสถานหมีเท็ดดี้กางร์อย่างเพลิน ต่อไปก็เดินทางช้อปปิ้งที่ “ตลาดทงแดมุนรวมทั้งตลาดเมียงมองดอง” ซะจนถึงไม่มีแรงและก็หมดกระเป๋าอย่างยิ่งจริงๆรวมทั้งเดินทางสู่ที่พักเพื่อจัดเตรียมเดินทางท่องเที่ยวดินแดนประเทศเกาหลีในวันถัดไป
ถนนหนทางยออิโด
เดินดูดอกซากุระตลอดบน ” ถนนหนทางซากุระ หรือถนนหนทางยออิโด ” ที่กรุงโซล รวมทั้งเก็บภาพความ ติดใจกับดอกซากุระอย่างเต็มเปี่ยม ต่อมาเดินทางไปเยี่ยมชม ” โรงงานโสม ” ซึ่งได้รับความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโสมแล้วนั้นยังได้ดูและก็ ลองสินค้าที่ทำมาจาก โสมประเทศเกาหลีแบบของจริงเริ่มแรก เว้นแต่โรงงานโสมแล้วนั้น ได้เยี่ยมชม” โรงงานเจียระไนพลอยแอมมาคราวส “ที่ดินแดนประเทศเกาหลี นับเป็นดินแดนของพลอยสีม่วง พลอยที่สุขภาพความมั่นคงและยั่งยืนรวมทั้งนำโชคของประเทศเกาหลีได้เยี่ยมชมจิวเวอร์ปรี่ที่ทำมาจากพลอยแอมมาหนส พอเพียงถึงเวลาตามที่ได้กำหนดการเดินทางก็จำเป็นต้องจำยอมบอกอำลาดินดินแดนประเทศเกาหลี แล้วก็เดินทางกลับสู่เมืองไทยโดยสวัสดิภาพการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้เต็มไปด้วยความซาบซึ้งรวมทั้งความตื่นตาตื่นใจ กับสิ่งที่ได้สัมผัส ความสวยสดงดงามของธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นความสวยของดอกซากุระ และก็ยังรวมทั้งหิมะที่ตกโปรยลงมา นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนรวมทั้งสร้างความตรึงใจให้อย่างมาก ” ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีตอนนี้นับเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่สร้างความซาบซึ้งอย่างมาก “

5 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด อัพเดท 2018

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เหตุเพราะใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงแต่ 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แล้วก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย แม้จะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีนั้นจริงๆแล้วมีมากมายก่ายกองหลายที่ เพราะฉะนั้นคนไหนกันกำลังแพลุกลี้ลุกลนท่องเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนดี ทดลองตามมาดู 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในประเทศเกาหลี แล้วต้องอยากท่องเที่ยวแน่ๆ

1. วังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
ราชสำนักเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “ราชสำนักคยองบกกุง” เป็นอีกทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล วังที่มีขนาดใหญ่แล้วก็เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ วงศ์สกุลโชชอน แต่ก่อนนั้นภายในวังมีตึกรวมทั้งพระราชวังต่างๆมากกว่า 200 ข้างหลัง แต่ว่าเมื่อมีการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่แค่เพียง 10 ข้างหลังเท่านั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนว่ากล่าวค Namiseom Island
เกาะนามิเกิดจากผลของการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้มีชื่อในหมู่คนประเทศเกาหลีมานานเนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยสดงดงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติดังเช่น กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมทั้งนกกระจอกเทศด้วย รวมทั้งตรงนี้จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งสิ้น เพียงแค่รักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้ โดยช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะต้นไม้ล้นหลามตรงนี้จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะทางเท้าใต้ต้นแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนแปลงใบเป็นสีเหลืองสดสวยสดงดงามมากมาย แม้กระนั้นที่นี่คนจะมากตลอดทุกฤดู

3. รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station เป็นเยี่ยมในจุดชมซากุระที่งามลำดับต้นๆของประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถมองเห็นรถไฟที่วิ่งมาหยุดที่สถานีพร้อมด้วยทิวทัศน์อุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในช่วงโดยประมาณต้นเดือนเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวาที่นี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้งานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แม้กระนั้นจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดูดอกซากุระที่จัดอย่างมากใหญ่ของเมืองจินแฮ แต่ว่ารถไฟนั้นจะไม่ได้มาหยุดที่สถานี เพียงแค่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream ยอดเยี่ยมในจุดที่มีชื่อสูงที่สุดสำหรับเพื่อการดูดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มมีชื่อเสียงกันภายหลังซีรีย์เรื่อง Romance ออกอากาศเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้คลองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับเพื่อการถ่ายทำ เลื่องลือจนถึงมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ข้ามคลองตามชื่อซีรีย์มันก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆม.ย.ของทุกปีซึ่งเป็นตอนๆที่มีเทศกาลชมดอกซากุระ ที่คลองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักเดินทางที่เดินทางมาชมความสวยสดงดงามของดอกซากุระ สามารถเดินเล่นได้อีกทั้งด้านบนสะพานรวมทั้งข้างล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคูน้ำ และยังมีดอกเรปซีดซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการประดับตกแต่งบริเวณลำคลองในตอนที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันสดใสมาห้อยไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจน่ารักน่าเอ็นดูๆรวมทั้งในตอนช่วงเวลากลางคืนก็จะเปิดไฟเสริมแต่งงดงามมากมาย

5. เขตช้อปปิ้งเมียงมองป่าดง หรือ มยองดง
ย่านช้อปปิ้งเมียงดง หรือ มยองดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่แกนกลางกรุงโซล เป็นย่านช้อปปิ้งที่ฮิตแล้วก็คักคักที่สุดของกรุงโซล เย้ายวนใจนักเดินทางได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก นับว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และก็วัฒนธรรมเลยทีเดียว ภายในตลาดเมียงดงเต็มไปด้วยร้านรวง และก็ร้านอาหารนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวและนักช้อป

ห้างสรรพสินค้า
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด เป็นต้นว่า ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างชินเซเอ็ง(Shinsegae) ส่วนร้านขายของอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมทั้งแผงลอยข้างถนนที่ขายเสื้อผ้า เครื่องเพชรพลอย เครื่องแต่งหน้า สินค้าอื่นๆในราคาถูก และของว่างแสนอร่อย โดยเถ้าแก่โดยมากสามารถพูดภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และก็ไทยได้

เป็นอย่างไรกันบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามชมการจัดสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเยอะมากจริงๆประเทศนี้เที่ยวยังไงก็ไปไม่หมดกล้วยๆหวังว่าเพื่อนพ้องๆอาจชอบ และก็ติดตามบทความของพวกเรา คนใดกันแน่พอใจกรุณาแชร์ให้เพื่อนพ้องๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วพบกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

5 สุดยอดสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อพูดถึงเวียดนามใครๆก็มักจะระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ว่าทราบไหมมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆน่าสนใจอีกเยอะมากในเวียดนามที่เดี๋ยวนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีต้องสุดๆ5 สถานที่ไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากเมืองดานังประมาณ 40 กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา ภูเขาบานา เคยเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยข้างบนเป็นบ้านพักและโรงแรมของชาวฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังการรบชาวฝรั่งเศสแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่หลายปี จวบจนกระทั่งถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับเพื่อการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน รายจ่ายสำหรับการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้วก็ช่วงที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกผลิตขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากออสเตรเลีย อุปกรณ์และเครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งสิ้น 94 เคบิน กระเช้ามีแบบเปิดโล่งโอเพ่นแอร์กับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.เที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ และยังรวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและก็น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งวันนี้พวกเราจะขอแนะนำสถานที่เที่ยวที่มีทั้งยังความงดงาม และก็ความตรึงใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างหมายถึงถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ และก็ได้รับการยอมรับจาก นักสำรวจถ้ำทั่วโลกว่า เป็นถ้ำลำดับต้นๆของโลก เนื่องจากว่าเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการดังเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำเยอะที่สุด ยาวที่สุด รวมทั้งกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยี่ยมมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) โน่นจึงส่งผลให้อุทยานที่นี้มีตำแหน่งที่ตั้งแบบหินปูนที่ดั้งเดิมที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) และก็อำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) รวมทั้งติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาทางด้านใตนราวๆ 500 กิโล ข้างในเขตสวนมีกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้มีชื่อเสียงในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่จำนวนไม่ใช่น้อย และก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำน้ำใต้ดินขนาดใหญ่

3.เที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่กิตติศัพท์มีชื่อเสียงไปทั้งโลก ซึ่งนักเดินทางทุกคนไม่ควรพลาดดู โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติเพราะมีความสวยของธรรมชาติเยอะมาก

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางทางเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกราว 170 กิโล และก็อยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมดทั้งปวง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long คือ อ่าวมังกรผู้ดำดิ่ง ตามตำนานประชาชนเวียดนามบอกกล่าวกันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังทำศึกกับจีน ทวยเทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรพวกนี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีอัญมณีแล้วก็หยกพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน แล้วก็บางตำนานพูดถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่บริเวณตูดอ่าว

4.ท่องเที่ยวเมืองซาปา ที่นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง คือเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากที่มีเสน่ห์เยอะที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยภูมิประเทศอันสวยที่รุมล้อมไปด้วยยอดเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นเกือบจะตลอดปีทำให้ยามเช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวย ในแต่ละปี ซาขว้าง ก็เลยล่อใจนักเดินทางจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้เยอะๆ

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง คือเมืองเล็กๆที่นักเดินทางฝรั่งเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่สมัยที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยคนยุโรปชื่นชอบที่นี่เพราะเหตุว่าอากาศดีและเงียบสงบ ต่อมาซาขว้างก็เลยโด่งดังรวมทั้งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเพิ่มขึ้นจนถึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน เทือกเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายด้วยเหตุว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายๆคนเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่รวมทั้งอยู่ใกล้กับชายหาด จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่เป็นเทือกเขาทรายขาวรวมทั้งเทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถายภาพ เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตเป็นการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่างซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นตอนที่ดีที่สุดในการมาท่องเที่ยวเป็น ช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็เวลาเย็น เพราะช่วงเวลากลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศแล้วก็แดดจัดมาก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย ด้วยเหตุว่าเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนจำนวนไม่น้อยคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่แล้วก็อยู่ชิดกับริมหาด จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงเทือกเขาทรายขาวและก็เทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang รวมทั้งมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ได้รับความนิยมมากกว่าในสายตาของคนถ่ายภาพ เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตเป็นการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับในการมาเที่ยวเป็นช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็นเพราะเหตุว่าตอนกลางวันถึงช่วงเวลาบ่ายนั้นอากาศและก็แดดแรงมาก
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งยังสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สถานที่เที่ยวในประเทศพม่าที่คุณจะต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

หากพูดถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย ส่วนใหญ่หลายคนมักรำลึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น แต่ว่าเรื่องจริงพม่า ยังมีสถานที่เที่ยวน่าดึงดูดหลายสไตล์ ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักครั้ง วันนี้เราเก็บ 5 สถานที่เที่ยวพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีตรงไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพุกาม ทะเลเจดีย์แล้วก็วิถีชีวิตแบบพูกามๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวพุกาม ที่ศาสนาพุทธเจริญถึงจุดสุดยอดเหมือนกันในตอนนั้น ทำให้พระเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ ท่านสร้างเจดีย์ที่แรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” แล้วกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่รวมทั้งผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในพุกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด อาจจะเนื่องจากความเลื่อมใสที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่มหึมาเพียงใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากเท่านั้น

อาณาจักรพุกามเคยก้าวหน้าแค่ไหนพวกเราอาจจะไม่ต้องบรรยาย เนื่องจากว่าเกือบจะ 1,000 ปีที่ผ่านมาทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้พิสูจน์ตนเองไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่จะต้องมาพิสูจน์ความโหฬารนั้นด้วยตาของเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียงแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่เคยรู้ว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
ถ้าเกิดโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันดีกว่า! สถานที่เที่ยวในเมียนมาร์ อีกแห่งที่ต้องการเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom นับว่าเป็นสวนน้ำที่แรกของเมียนมาร์ ตั้งอยู่ในเมืองปิ้งกุ้ง ที่นี่คุณจะได้เจอกับสไลด์เดอร์สุดแจ๋วสุดยอด อีกทั้ง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้ท่านไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้คุณรวมทั้งเพื่อนฝูงๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกร่วมกัน ผ่านท่อสีเขียวที่ลดเลี้ยว ยาวกว่า 60 เมตร! นอกเหนือจากนี้ยังมีโซนสำหรับหนูน้อยอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งยังล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันเลยดีกว่า

3. ท่องเที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้เก่าแก่ ที่แก่กว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น พวกเราสามารถเดินชมสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ และยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศรอบๆบริเวณสะพาน จะมองเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์เป็นประกายกับสายน้ำ นอกเหนือจากการที่จะได้ชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตกแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนเมียนมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดประทับใจกันอย่างยิ่งจริงๆ

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายของกินบนเกาะ ดูดวงอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลาแล้วก็กุ้งสดๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอดูดวงอาทิตย์ตกได้อีกด้วย วิธีสุดท้ายเป็นวิธีที่เสียตังน้อยที่สุดหมายถึงสามารถยืนดูวิวบนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละแบบแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และก็วิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่ตรงกลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ราษฎรดำรงชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นราษฎรเค้าสร้างบ้านรวมทั้งพักอาศัยกันในทะเลสาบเลยเอ็งรเอ้ยยย ต่อไปนี้เนี่ย แน่ๆการดำเนินชีวิตแล้วก็การเพาะปลูกหรือทำการเกษตรของเค้าต้องเกี่ยวกับทางเรือ ได้แก่ การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การผลิตบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมทั้งยานพาหนะจำเป็นอย่างเรือ ที่แน่นอนมีหยุดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือความสามารถพิเศษของชาวอินติดอยู่เนี่ยแหละ การนำยเรือด้วยเท้าข้างเดียวสำหรับการเดินทางรวมทั้งจับสัตว์ในน้ำที่ไม่ซ้ำใครในโลก ดังมากโว้ย ดังกระทั่งที่นี่เป็นอีกจุดหมายนึงที่นักเดินทางต้องมาดูเลยแหละ รู้แบบงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่ทะเลพม่า.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในสมุทรอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงประมาณ 81.2 กม.เท่านั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีหาด มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้าหากมองจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องกึ่งกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำสมุทรสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น ผนวกกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ทำให้รูปร่างหัวใจนี้เห็นชัด จนได้รับการขนานนามจากคนประเทศไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งฝรั่งจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวพม่า ก็ไม่ได้มีแต่ว่าการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเท่านั้น พม่ายังมีแหล่งธรรมชาติสวยๆอีกเยอะแยะ ต้องใจคนถูกใจเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าหากมีโอกาสลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การท่องเที่ยวเมียนมาร์กว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่เที่ยวในประเทศประเทศพม่าที่คุณจะต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าเกิดกล่าวถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย โดยมากหลายๆคนมักระลึกถึงการไปไหว้พระแค่นั้น แต่ข้อเท็จจริงพม่า ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้พวกเราเก็บรวบรวม 5 สถานที่เที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่แห่งใดบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพม่า ทะเลเจดีย์และวิถีชีวิตแบบประเทศพม่าๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวพูกาม ที่ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองถึงระดับสูงสุดเช่นกันขณะนั้น ทำให้พระเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ ท่านสร้างเจดีย์ที่แรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” แล้วหลังจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในพูกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด คงเพราะเหตุว่าความเลื่อมใสที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่โตแค่ไหน ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากมายเพียงแค่นั้น

อาณาจักรพม่าเคยเจริญแค่ไหนพวกเราอาจไม่ต้องบรรยาย เพราะเกือบจะ 1,000 ปีให้หลังทุกๆอย่างได้พิสูจน์ตนเองไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่จำต้องมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่นั้นด้วยตาของเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียงแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่เคยรู้ว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
แม้โลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่ต้องการชักชวนคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom นับว่าเป็นสวนน้ำแห่งแรกของประเทศพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้พบกับสไลด์เดอร์สุดแจ๋วระดับโลก ทั้งยัง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้ท่านไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กม./ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้ท่านและสหายๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกสนานด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่เลี้ยวไปเลี้ยวมา ยาวกว่า 60 เมตร! ยิ่งกว่านั้นยังมีโซนสำหรับหนูน้อยอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกอีกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกสนานกับสวนน้ำในปิ้งกุ้งกันเลยดีกว่า

3. เที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้โบราณ ที่มีอายุกว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น พวกเราสามารถเดินชมสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ รวมทั้งยิ่งในเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศรอบๆบริเวณสะพาน จะมองเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์เป็นประกายกับสายน้ำ นอกเหนือจากที่จะได้ชมความงดงามของดวงอาทิตย์ขึ้นรวมทั้งตกแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนภรรยานมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตรึงตาตรึงใจกันเลยทีเดียว

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายของกินบนเกาะ ชมดวงอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลาแล้วก็กุ้งใหม่ๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอดูดวงตะวันตกได้อีกด้วย แนวทางสุดท้ายเป็นวิธีที่เสียตังน้อยที่สุดหมายถึงสามารถยืนชมวิวบนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละอย่างแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และก็วิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ประชาชนดำรงชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? คือชาวบ้านเค้าก่อสร้างบ้านและพักอาศัยกันในทะเลสาบเลยแกรเอ้ยยย ทีนี้เนี่ย แน่นอนการดำรงชีพและก็การเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าต้องเกี่ยวกับทางเรือ เช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การผลิตบ้านแบบเสาค้ำกึ่งกลางน้ำ รวมทั้งยานพาหนะจำเป็นต้องอย่างเรือ ที่แน่นอนมีหยุดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือความสามารถพิเศษของชาวอินค้างเนี่ยแหละ การพายเรือด้วยเท้าด้านเดียวสำหรับเพื่อการเดินทางรวมทั้งจับสัตว์ในน้ำที่ไม่ซ้ำใครในโลก ดังมากเว้ย ดังจนกระทั่งตรงนี้เป็นอีกจุดมุ่งหมายนึงที่นักเดินทางจำต้องมาดูเลยล่ะ รู้อย่างงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต แห่งทะเลเมียนมาร์.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในสมุทรอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากริมฝั่งจังหวัดระนองเพียงแต่ราวๆ 81.2 กิโลเมตรเท่านั้น เกาะที่นี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีชายทะเล มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้าเกิดดูจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น ผนวกกับบริเวณรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ทำให้รูปร่างหัวใจนี้เห็นเด่น จนได้รับการตั้งชื่อจากคนไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งฝรั่งจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

เห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวเมียนมาร์ ก็มิได้มีแต่การไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวแค่นั้น ประเทศพม่ายังมีแหล่งธรรมชาติสวยๆอีกเยอะมาก ถูกใจคนถูกใจเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าหากได้โอกาสลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การเที่ยวเมียนมาร์กว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ไหว้พระประเทศพม่า รวม 5 สถานที่ทำบุญสุนทาน เสริมดวงบารมี

วันนี้ทางเราจึงได้สะสมรายนาม 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระประเทศพม่านิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !
1.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อเอ่ยถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนโดยมากมักจะนึกถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นลำดับหนึ่งสถานที่สุดฮิตอันดับ 1 ของทัวร์ไหว้พระพม่า เพราะเหตุว่ามีรายการวิทยุรวมทั้งรายการทีวีหลายรายการกันอย่างยิ่งจริงๆที่จัดทัวร์ไหว้พระประเทศพม่าตรงนี้ ก็เลยไม่สนเท่ห์ใจว่าเพราะเหตุไรพวกเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองย่างกุ้งอย่างดีเยี่ยม
ส่วนที่มาที่ไปของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองจนใครๆก็ต้องการมาทัวร์ประเทศพม่าไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงท่วม มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกศึก รวมทั้งแน่นอนว่าท้ายที่สุดเขาก็ชอบชนะซะทุกครั้ง นอกเหนือจากนี้ยังมีความเชื่อของชาวมอญแล้วก็ชาวประเทศพม่าอีกด้วยว่าการมากราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นวิถีทางหมดทุกข์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วก็อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีทุกวันเกิดตั้งอยู่ 8 ด้าน ซึ่งสามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทพทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์เมียนมาร์
เว้นแต่พระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทพทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดาทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาประเทศพม่าว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” ซึ่งก็คือจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแต่ต่ำลงยิ่งกว่าเทวดาตามคติความเลื่อมใสประเทศพม่า มีบทบาทคุ้มครองสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนเมียนมาร์ใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนยกย่อง
ส่วนสาเหตุของชื่อ เทพทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรตรงนี้แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมปรารถนา ก็เลยเป็นสาเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ รวมทั้งเป็นเยี่ยมในต้นเหตุที่คนอีกจำนวนไม่น้อยท่องเที่ยวไหว้พระเมียนมาร์
3.ทัวร์ไหว้พระพม่ากับ เทพกระซิบบอก (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อเราไปไหวเทพทันใจแล้ว จำนวนมากเที่ยวเมียนมาร์จะพาไปไหว้พระ สักการะ เทวดากระซิบ กันต่อเลย เนื่องด้วยสถานที่ติดตั้งของเทวดากระซิบบอกนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดากระซิบมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นลูกสาวของพญานาคที่เชื่อถือศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก เมื่อตายไปก็เลยแปลงเป็น นัต
ส่วนต้นเหตุของชื่อเทวดากระซุบกระซิบ แล้วก็ความอำนาจที่ล่อใจไหว้พระเมียนมาร์นั้น บอกเลยว่ามีต้นเหตุมาจากคนไทยนี่แหละ แต่เดิมชาวพม่าก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ ปกติ แต่ไม่มีผู้ใดไปกระซุบกระซิบอะไร กระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระเมียนมาร์ได้พาคนไทยไปและก็เห็นป้ายภาษาเมียนมาร์ที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เนื่องด้วยมีพ่อค้าแม่ขายบริเวณนั้นชอบโหวกเหวกโวยวาย แต่ไกด์หลงผิดก็เลยบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “หากจะขอพรกับเทพองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” หลังจากนั้นลูกทัวร์คนไทยก็ไปกระซุบกระซิบขอพร ซึ่งแน่ๆชาวประเทศพม่ามองเห็นคนไทยทำแล้วก็สมหวังตามมุ่งมาดปรารถนาก็เลยเริ่มทำบ้างจนกระทั่งแปลงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสุดท้าย
4.สักการะพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ปิ้งกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระพม่านั่นเป็น พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้เอามาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่ยุคพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วม ถือเป็นสิ่งศักดาที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามาเป็นเวลายาวนาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็นับว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบพูกาม สวย อ่อนช้อย โดยมีจุดแข็งตรงที่ตัววัดจะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่สวยสดงดงาม จึงเหมาะสมมากที่จะมาไหว้พระพม่าที่วัดนี้
5.สักการะพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
แม้ประเทศไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งเย้ายวนใจนักเดินทางแล้ว ไหว้พระประเทศพม่าก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเช่นเดียวกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพระพุทธรูปขนาดยาวราวๆ 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์มีข้อดีตรงที่ดวงตาที่มองหวานแล้วก็จีวรที่เป็นพลิ้วไหวๆส่วนตรงแกนกลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ นอกจากนั้นพระบาทยังมีลักษณะทับกันทำให้แตกต่างกันกับศิลป์แบบไทยอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ไหว้พระประเทศพม่า รวม 5 สถานที่ทำบุญ เสริมดวงบารมี

วันนี้ทางเราจึงได้เก็บรวบรวมรายนาม 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระพม่านิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !
1.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนส่วนมากชอบระลึกถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นลำดับหนึ่งสถานที่สุดได้รับความนิยมอันดับ 1 ของทัวร์ไหว้พระพม่า เพราะมีรายการวิทยุและรายการทีวีหลายรายการป้องกันเลยทีเดียวที่จัดทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์ตรงนี้ จึงไม่สนเท่ห์ใจว่าเพราะเหตุใดพวกเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองย่างกุ้งอย่างดีเยี่ยม
ส่วนที่มาที่ไปของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองกระทั่งใครๆก็อยากมาทัวร์ประเทศพม่าไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงท่วม มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกศึก รวมทั้งแน่ๆว่าท้ายที่สุดเขาก็ชอบชนะซะทุกครั้ง นอกเหนือจากนั้นยังมีความเชื่อของชาวมอญและก็ชาวประเทศพม่าอีกด้วยว่าการมากมายราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นหนทางพ้นทุกข์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วก็อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีประจำวันกำเนิดประดิษฐานอยู่ 8 ทิศ ที่สามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทวดาทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์ประเทศพม่า
เว้นแต่พระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์ประเทศพม่าไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทพทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดาทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาพม่าว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” หมายถึงจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแม้กระนั้นต่ำลงมากยิ่งกว่าเทพตามคติความเชื่อเมียนมาร์ มีหน้าที่ป้องกันสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนพม่าใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนยกย่อง
ส่วนต้นเหตุของชื่อ เทพทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรที่นี่แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมประสงค์ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อ เทวดาทันใจ และก็เป็นเยี่ยมในมูลเหตุที่คนอีกจำนวนไม่น้อยไปเที่ยวไหว้พระพม่า
3.ทัวร์ไหว้พระประเทศพม่ากับ เทวดากระซิบ (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อพวกเราไปไหวเทวดาทันใจแล้ว จำนวนมากท่องเที่ยวพม่าจะพาไปไหว้พระ สักการะ เทพกระซิบกระซาบ กันต่อเลย เนื่องจากว่าสถานที่ประดิษฐานของเทพกระซุบกระซิบนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทพกระซิบมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นลูกสาวของพญานาคที่เชื่อถือศาสนาพุทธอย่างมาก เมื่อตายไปจึงเปลี่ยนเป็น นัต
ส่วนสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อเทวดากระซิบ แล้วก็ความอำนาจที่ดึงดูดไหว้พระประเทศพม่านั้น บอกเลยว่ามีเหตุที่เกิดจากคนไทยนี่แหละ เดิมทีชาวเมียนมาร์ก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ ปกติ แต่ไม่มีผู้ใดไปกระซิบอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระประเทศพม่าได้พาคนไทยไปและมองเห็นป้ายภาษาประเทศพม่าที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เนื่องจากว่ามีพ่อค้าแม่ขายรอบๆนั้นชอบโหวกเหวกโวยวาย แต่ไกด์รู้ผิดจึงบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “ถ้าหากจะขอพรกับเทพองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” จากนั้นลูกทัวร์ชาวไทยก็ไปกระซิบกระซาบขอพร ซึ่งแน่ๆชาวเมียนมาร์เห็นคนไทยทำแล้วก็สมหวังตามประสงค์ก็เลยเริ่มทำบ้างจนถึงแปลงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติท้ายที่สุด
4.สักการะพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ย่างกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระเมียนมาร์นั่นคือ พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้เอามาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบุเรงท่วม นับว่าเป็นสิ่งอำนาจที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามาเป็นเวลายาวนาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะว่าเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบพูกาม สวยงาม งอนงาม โดยมีจุดแข็งตรงที่ตัววัดจะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่งดงาม จึงเหมาะมากที่จะมาไหว้พระประเทศพม่าที่วัดนี้
5.สักการพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
ถ้าเกิดเมืองไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งดึงดูดนักเดินทางแล้ว ไหว้พระเมียนมาร์ก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญด้วยเหมือนกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพุทธรูปขนาดยาวราว 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศประเทศพม่ามีลักษณะเด่นตรงที่ดวงตาที่มองหวานและผ้าจีวรที่เป็นพลิ้วๆส่วนตรงจุดศูนย์กลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ นอกเหนือจากนี้พระบาทยังมีลักษณะทับกันทำให้แตกต่างกับศิลปะแบบไทยอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เที่ยวพม่าสักการะ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของพม่า

ยกย่องพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมสารีริกธาตุประจำปีกำเนิดของปีม้า สักการพระบรมธาตุมุเตา เยอะที่สุดของพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์ห้อย พระบรมธาตุรายปีเกิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
หากจะกล่าวถึงการไปท่องเที่ยวเมียนมาร์แล้ว คงไม่มีผู้ใดไม่เอ่ยถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมียนมาร์ อีกทั้งชาวต่างประเทศที่มาเที่ยวเมียนมาร์ต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่มีอายุดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็มีความยิ่งใหญ่วิจิตรตระการตา โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีสาเหตุมาจากแรงเชื่อถือของชาวประเทศพม่า ร่วมกันบริจาคเงินทองทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่ยิ่งขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันห่อหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 โลเลยทีเดียว ทำให้เจดีย์ที่นี้ มีสีทองบรอนซ์สวยงาม ฉายแสงให้มองเห็นทั้งช่วงเวลากลางวันกลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ข้างบนยอดเจดีย์ยังถูกประดับไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า ส่องแสงระยิบมองเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาเที่ยวเมียนมาร์ นอกเหนือจากการที่จะมาชื่นชมความสวยสดงดงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จะต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานแล้วก็กราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานประสบผลสำเร็จ หรือ ลานอธิษฐาน เพราะเหตุว่ามั่นใจว่าจะสัมฤทธิผลดังที่มุ่งหมาย ต่อด้วยการรดน้ำพระทุกวันกำเนิดที่ประดิษฐานอยู่อีกทั้งแปดด้านรอบองค์เจดีย์แล้วก็มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้เคารพบูชาขอพร
2. พระธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ไปเที่ยวเมียนมาร์ชมความงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวประเทศพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความสวยในแบบฉบับมอญกันบ้างที่ พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุดั้งเดิมกว่า 2,000 ปีและก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมียนมาร์อีกด้วย ข้างในเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ ทำให้รูปแบบที่มองเห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกสิ่งทุกอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบๆองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นอิฐกลวง โดยมีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระกรรณของพระผู้เป็นเจ้าตะเบ็งเสียงชะเวตี้เมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆต่อมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงนองได้สร้างฉัตรถวายเพิ่มอีกหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่จะท่านจะออกออกศึกคราไหน จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกหน และก็สมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนทัพมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการในที่ที่นี้ด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวบ่อย และครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะและแสดงซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ได้สักการคู่กันกับองค์ปัจจุบันนี้ ซึ่งนี่เองที่ถือเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยแนวทางการอธิษฐาน ให้เอามือและก็หน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมธาตุองค์เดิมที่หัก และก็อธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสำเร็จผล
3. พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจครั้งโย
พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจครั้งโย ในภาษามอญ หมายความว่าหินรูปหัวฤๅษี เป็นหินที่ศรัทธา มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน แม้มองด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกหน้าผาแถมหน้าผายังเอียงลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนกับว่าหินวางอยู่อย่างล่อแหลมเหมือนจะร่วงลงมา แต่ตั้งตระหง่านบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงน้อยนิด ไม่กลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่ประการใด ราวกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ จึงได้เรียกกันว่า พระธาตุอินทร์ห้อยนอกจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระเกศาแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนกำเนิดปีนี้ต้องไปเที่ยวเมียนมาร์ เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า หากคนไหนได้มานมัสการพระบรมธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสบายความรุ่งเรือง พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดังต้องการทุกอย่าง

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ท่องเที่ยวเมียนมาร์สักการ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของเมียนมาร์

สรรเสริญพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุรายปีเกิดของปีมะเมีย สักการพระธาตุมุเตา มากที่สุดของเมียนมาร์ ไหว้พระธาตุอินทร์แขวน พระบรมสารีริกธาตุประจำปีเกิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าจะเอ๋ยถึงการไปเที่ยวพม่าแล้ว คงจะไม่มีใครไม่กล่าวถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่า ทั้งฝรั่งที่มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่ดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเกศธาตุ 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีความใหญ่โตยอดเยี่ยม โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีเหตุที่เกิดจากแรงเชื่อถือของชาวพม่า ร่วมกันบริจาคสินทรัพย์ทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่ยิ่งขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เปิดเผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 โลเลยทีเดียว ทำให้เจดีย์แห่งนี้ มีสีทองบรอนซ์งาม เปล่งแสงให้มองเห็นช่วงเวลากลางวันค่ำคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกประดับประดาไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า เปล่งแสงระยิบเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ นอกเหนือจากการที่จะมายกย่องความงดงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จะต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานและกราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานสัมฤทธิผล หรือ ลานอธิษฐาน เพราะมั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จตามที่ปรารถนา ต่อด้วยการรดน้ำพระทุกวันกำเนิดที่ประดิษฐานอยู่แปดด้านรอบองค์เจดีย์และก็มีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้เคารพบูชาขอพร
2. พระธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ไปเที่ยวเมียนมาร์ชมความสวยงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความงดงามในแบบอย่างมอญกันบ้างที่ พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีแล้วก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่าอีกด้วย ข้างในเจดีย์ใส่พระเกศาธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ ทำให้แบบที่เห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกสิ่ง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นอิฐกลวง โดยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระกรรณของพระเจ้าตะเบ็งเสียงชะเวตี้เมื่อครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วมได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น กล่าวกันว่าก่อนที่ท่านจะออกออกศึกคราไหน จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกหน รวมทั้งสมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งยกพลมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการในที่แห่งนี้เหมือนกัน ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยมาก แล้วก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะแล้วก็จัดแสดงซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ได้สักการคู่กันกับองค์ปัจจุบัน ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยขั้นตอนการอธิษฐาน ให้เอามือและหน้าผากสัมผัสไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก และอธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสัมฤทธิ์ผล
3. พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจครั้งโย
พระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจหนโย ในภาษามอญ แปลว่าหินรูปหัวฤๅษี เป็นหินแห่งเลื่อมใส มีลักษณะเป็นหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนผาสูงชัน แม้ดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อก้อนหินนั้นยื่นออกมานอกหน้าผาแถมหน้าผายังลาดเอียงลงต่ำ ทำให้ดูราวกับว่าหินวางอยู่อย่างหมิ่นเหม่ราวกับจะตกลงมา กลับตั้งตระหง่านบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงน้อยนิด ไม่เกรงกลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่อย่างใด อย่างกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ ก็เลยได้เรียกกันว่า พระธาตุอินทร์แขวนนอกเหนือจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระเกศาแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมธาตุประจำปีหน้าจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จำต้องท่องเที่ยวพม่า เพื่อไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า ถ้าคนใดได้มานมัสการพระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสบายความรุ่งโรจน์ พร้อมด้วยขอสิ่งใดก็จะได้สมดุจต้องการทุกสิ่ง

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

10 สิ่งที่จะต้องรู้แล้วก็ควรจะทำเมื่อท่องเที่ยวในประเทศพม่า

1. จัดเวลามากกว่า 1 สัปดาห์สำหรับในการท่องเที่ยวเที่ยวดู
การเที่ยวพม่าจำเป็นที่จะต้องใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 อาทิตย์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สบายนักและทางที่ยาวไกล 1 อาทิตย์ดูเหมือนเร่งรีบเหลือเกินและก็ยังเที่ยวได้ไม่ทั่ว ถ้าเกิดคุณมีเวลา 2 หรือ 4 สัปดาห์ให้วางแผนทางท่องเที่ยวรอบๆสถานที่สำหรับท่องเที่ยวหลัก 4 ที่โดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งแล้วก็บินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปและรับประทานให้กระจายในปิ้งกุ้ง
ปิ้งกุ้ง เป็นเมืองขนาดกะทัดรัดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากยุคอาณานิคมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองชักชวนให้ระลึกถึงสมัยก่อนที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ตอนที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองแพรวพราวเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธอันเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ชุมชนคนจีน เนปาล และประเทศอินเดียตั้งอยู่เคียงคู่ชุมชนชาวพม่า ที่พักราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พุกาม
พุกาม ดินแดนลึกลับเหนือเวลานี้เป็นที่ตั้งของสงฆ์กว่า 2,000 แห่งที่ทำขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่าสวยงาม ไปจนกระทั่งวัดเล็กๆที่สร้างอย่างประณีตบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางย้อนเวลา ที่นี่ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (โดยประมาณ 600 บาทต่อวัน) แต่การขี่จักรยาน (ราว 90 บาทต่อวัน) เป็นวิธีเดินทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการท่องเที่ยวแบบเต็มวันแล้วก็กระทำตนกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในพูกาม ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
4. ศึกษาและทำการค้นพบความเงียบสงบรวมทั้งจารีตดั้งเดิมที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นชั้นสองของพม่า) เป็นราวกับกระจกเงาสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันงดงามของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือและก็คลองที่ใช้คนขุด ที่นี่ยังคงรักษาจารีตประเพณีโบราณ(แล้วก็ชาวเลที่พายเรือด้วยเท้าข้างเดียว) บรรยากาศเงียบสงบ แล้วก็การค้าขายแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ แล้วก็สวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล ถ้าเกิดอยากชมทะเลสาบแบบสงบเงียบไม่ต้องฝ่าผู้คนเราขอเสนอแนะให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มรสของอร่อย และก็หัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันสวย
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันมากมายให้ทำกระทั่งล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการดูวิวเมืองจากยอดเขามัณฑะเลย์ หลังจากที่เร่ร่อนทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ และหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มลองของกินใหม่ๆจากร้านค้าเคลื่อนที่สองข้างทางซึ่งมีมากมายจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเมือง รวมทั้งหัวเราะให้ลั่นกับลูกพี่ลูกน้องหนวดนักเล่นตลกการบ้านการเมืองที่จัดแจงแสดงเฮฮาทุกวี่ทุกวันในบ้านของครอบครัว ตั๋วเรือบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน และก็นั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
ถ้าการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังตื่นเต้นไม่เพียงพอ ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกน้ำเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในพม่า รถไฟสายที่จะทำให้คุณใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมดูลงมาให้ได้ เพราะความสูงที่น่าเสียวไส้จะทำให้คุณลืมไม่ลงไปอย่างยิ่งจริงๆ
7. ลงใต้ไปเยือนเกาะสวรรค์ หมู่เกาะมะริด ประเทศพม่า
เพราะว่าเขตตอนเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปได้ ด้านใต้ก็เลยเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่าเพราะว่าได้เปิดให้ท่องเที่ยวชมได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งรวมทั้งทวายเป็นทางที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้และก็ให้บรรยากาศเขตแดนสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่ามหัศจรรย์ เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่งดงามเกินจริงโดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือแล้วก็ทัวร์แบบพักแรมหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองหนทางเป็น ฤดูท่องเที่ยวในตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งอากาศกำลังสบายแต่ว่ามีนักท่องเที่ยวล้นหลามรวมทั้งตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างกุมภาพันธ์/มี.ค. ถึง พฤษภาคมซึ่งเป็นตอนที่นักท่องเที่ยวน้อยกว่าแม้กระนั้นอากาศก็ร้อนเหลือเกิน ลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโรงแรม อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในพม่าคุณต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งแลกเงินใกล้บ้านหรือในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จากนั้นนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดพอดีท่าอากาศยาน เกสท์เฮ้าส์ หรือแบงค์ในเมียนมาร์ เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางเป็นต้นว่า อาหาร ค่าพาหนะ แล้วก็ของที่ระลึก ในเมียนมาร์มีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ร้องฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในประเทศพม่า
รักจะเที่ยวเมียนมาร์จะต้องทำความเข้าใจที่จะสนุกไปกับการเดินทางบนรถบัสอันนาน เพราะเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั่วราชอาณาจักร รถบัสหลายคันจะออกตอนเวลาบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในค่ำๆ หรือเช้ามืดวันรุ่งขึ้น บนรถบัสชอบมีคาราโอเกะไว้บริการรวมทั้งบางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถยนต์ออกไปจนถึงที่หมายอย่างยิ่งจริงๆ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชธานีในที่สุดของพม่า

“เยือนมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชจังหวัดท้ายที่สุดของพม่า”
วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยงตรงในประเทศพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะบุคคล เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางเผลอไผลจนกระทั่งไม่เคยทราบลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชเมืองในที่สุดก่อนจะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ตรงนี้ถือเมืองใหญ่อันดับที่สองของเมียนมาร์รองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งราวๆ 716 กิโลรวมทั้งพระเจ้าไม่นป่าทรงย้ายราชธานี มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชจังหวัดในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระผู้เป็นเจ้ามินดง โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พูกาม
เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศักราชที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่งดงามมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโหฬารของเจดีย์จำนวนไม่ใช่น้อยกว่า5,000 องค์ จนได้รับนามสมมุติว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความรุ่งโรจน์ของศาสนาพุทธในประเทศพม่าได้อย่างดีเยี่ยมคนทั่วไปก็เลยเรียกเมืองพูกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดชมวิวสวยสดงดงามและก็มีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาสำคัญๆให้นักเดินทางได้ดู อีกทั้งมองธรรมชาติ มองทิวภาพอันงามที่สุด แล้วก็สามรถยนต์มองดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้แทบทั้งสิ้น สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์ได้เป็นอย่างดี เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส เที่ยวดูตลอดเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา ผลิตขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กิโล ลักษณะเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกเหนือจากการที่จะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังผลิตขึ้นมาจากไม้สัก ที่รื้อถอนมาจากพระราชสำนัก เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดไม่ได้เมื่อไปเยื่อนประเทศพม่าเป็นการตักบาตรพระ ในช่วงสายๆจะมีพระพม่าเดินเรียงแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม กับข้าวต่างๆหรือถ้าไม่อยากซื้อพวกเราสามารถถวายเงินตามกำลังเชื่อถือได้เลย
นี่เป็นเพียงภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกจากนั้นประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่สวย แล้วก็น่าสนใจอีกมากมายที่ยังรอพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต รวมทั้งวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยพวกเรา และที่สำคัญใช้เวลาเดินทางแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง คนไหนกันมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมพม่า ไม่งกะละบานะคะ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า